ไม่กล้าให้ลูกเล่น ไม่กล้าให้ลูกเลอะเทอะ อาจจะทำให้เด็กขาดโอกาสเรียนรู้ จะทำให้มีผลกับพัฒนาการหรือเปล่านะ?

โดยมีการวิจัยมากมายที่พิสูจน์ว่าการเล่นนั้นช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก ๆ ทั้งด้านความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาดทางสติปัญญา ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะทางร่างกายและจิตใจซึ่งจะเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญในการปรับตัวพร้อมกับเรียนรู้สิ่งอื่นต่อไปได้ในอนาคตโดยมีการเล่นหลาย รูปแบบที่พ่อแม่ควรสนับสนุนรวมถึงออกแบบพื้นที่ให้พวกเขาได้เล่นอย่างปลอดภัยเ ช่นดังต่อไปนี้
- การเล่นที่ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Sensory play) เมื่อเด็กโดยเฉพาะในช่วงวัย 4-6 ปี ได้เล่นอย่างอิสระโดยใช้ประสาทสัมผัส ครบทุกส่วน จะทำให้เกิดการพัฒนาเซลล์ประสาทในสมองได้ทุกส่วนเช่นกัน การได้ลองหยิบจับสิ่งของที่มีขนาดหรือพื้นผิวสัมผัสในรูปแบบที่หลากหลาย ทำให้สมองเรียนรู้ที่จะจำแนกว่าอะไรปลอดภัยและอะไรไม่ปลอดภัย เช่น ในเด็กที่รับประทานยาก การได้ทดลองสัมผัส ดมกลิ่น สิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ ปลอดภัยและผ่อนคลายจะช่วยให้เด็กมีทัศนคติที่ดีต่ออาหารหลากหลายแบบมากขึ้น นอกจากนี้การสัมผัสด้วยมือ เช่น การปั้นดินโคลนหรือการปั้นดิน น้ำมันจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงเมื่อเข้าสู่วัยเรียนพวกเขาจะสามารถจับปากกาหรือดินสอในการเขียนหรือวาดภาพได้ดีขึ้นได้ด้วย
- การเล่นสวมบทบาท (Pretend play) เด็ก ๆ จะได้สวมบทบาทเป็นทุกสิ่งที่ต้องการได้ ทั้งการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่จากอวกาศ นักดนตรีชื่อดัง หรือเจ้าหญิงที่กำลังดื่มชายามบ่ายจากแก้วเปล่า การที่เด็กได้ได้เล่าเรื่องราว สร้างบทสนทนา ตั้งคำถาม ร้องเพลง สร้างจังหวะดนตรี จะช่วยเสริมสร้างสติปัญญา จินตนาการ ทักษะทางสังคม โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาสมองส่วนหน้าของพวกเขา ซึ่งเป็นสมองด้านการบริหารจัดการ (Executive Function) ที่คอยจัดการเรื่องการควบคุมอารมณ์ ความอดทน ความจำ และการยับยั้งชั่งใจเป็นต้น
- การเล่นที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย (Physical play) การได้ปีนป่าย วิ่งเล่น ช่วยทำให้จิตใจของเด็ก ๆ สดใส ช่วยพัฒนา กล้ามเนื้อมัดใหญ่ อีกทั้งการเล่นจนเหงื่อออกยังทำให้พวกเขามีสุขภาพที่ดี ช่วยป้องกันพวกเขาจากความเสี่ยงที่จะมีภาวะอ้วนหรือโรคเบาหวานได้
- การเล่นกับผู้อื่น (Peer play) เมื่อเข้าสู่วัย 4 – 5 ปี เด็กเริ่มที่จะเลือกได้ว่าอยากเล่นกับใครหรือไม่อยากเล่นกับใคร พวกเขาจะ เริ่มใช้เวลากับเพื่อนวัยเดียวกันที่มีความสนใจเหมือนกัน ซึ่งจะช่วยฝึกทักษะการเข้าสังคมและพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ให้พวกเขาได้
เมื่อลูก ๆ ของเรากำลังเติบโตทั้งร่างกายและจิตใจ พวกเขามักจะทดลองทำสิ่งต่าง ๆ เลียนแบบสิ่งที่ได้พบเห็นในชีวิตประจำวันในช่วงวัย ที่เด็กเริ่มเดินและสำรวจสิ่งของรอบกายการอนุญาตให้พวกเขาได้ออกไปเล่นนอกบ้านเพื่อสัมผัสธรรมชาติและเล่นตามจินตนาการจะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของพวกเขาได้
นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่าการเล่นกับคนอื่นจะส่งผลดีต่อทักษะทางวิชาการของเด็กในอนาคตเมื่อพวกเขาไปโรงเรียน เพราะ การเล่นนั้นจะ ต้องใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ การปรับตัว ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่น เห็นอกคนใจคนอื่นรวมถึงได้ฝึกที่จะต่อรองหากเกิดความขัดแย้ง
หลายครั้งเด็ก ๆ อาจเล่นหลายแบบในเวลาเดียวกัน เช่น เล่นสมมติเป็นนักวิทยาศาสตร์น้อยที่คั้นน้ำจากพืชหรือผลไม้เพื่อผสมสีเล่น เก็บดินเก็บหญ้ามาปรุงอาหารเป็นกุ๊กชั้นหนึ่งบนเรือโจรสลัด จนบางครั้งพ่อแม่กังวลใจกับความสะอาดของมือและเท้าน้อย ๆ ของพวกเขาเป็นอย่าง มากจนอาจถึงขั้นออกกฎห้ามเล่นเปื้อนดิน เปื้อนโคลนกันเลยทีเดียว
แต่อย่าลืมว่าเมื่อเล่นเสร็จ เด็กๆ สามารถอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายได้ แถมยังสามารถใช้การอาบน้ำเป็นพื้นที่ให้เขาได้เล่นกับฟองนุ่มๆ หรือกลิ่นสบู่อาบน้ำหอมๆ ได้อีกด้วย ซึ่งช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้นั้นเมื่อผ่านไปแล้วก็ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการดูแลพวกเขา คือ ให้เด็กได้เล่น ได้เรียนรู้อย่างอิสระภายใต้พื้นที่ที่ปลอดภัย
บทความโดยนักจิตวิทยาเด็กและครอบครัว
Bibilography :
Ginsburg, K. R. (2007). The Importance of Play in Promoting Healthy Child Development and Maintaining Strong Parent-Child Bonds. American Academy of Pediatrics, 182-191.
Kiewra, C., & Veselack, E. (2016). Playing with Nature:Supporting Preschoolers’ Creativity in Natural Outdoor Classrooms. The International Journal of Early Childhood Environmental Education, 70.
Majumdar, A. (2020). Role of play in child development. International Journal of Technical Research & Science, 9-16.
Scott, H. K., & Cogburn, M. (2021, july 9). Peer Play. Retrieved from NBCI: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK513223/
Thibodeau, R. B., Gilpin, A. T., Brown, M. M., & Meyer , B. A. (2016). The effects of fantastical pretend-play on the development of executive functions: An intervention study. Journal of Experimental Child Psychology, 120-138.
RELATED
รวมกิจกรรมกลางแจ้งสำหรับเด็กที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกน้อย
4 กิจกรรมกลางแจ้งสำหรับเด็ก พร้อมตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้เอาไว้ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อยเวลาเล่นกลางแจ้ง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โรคยอดฮิต ที่มักติดมาจากโรงเรียน
ได้เวลาเปิดเทอมเสียทีหลังจากหยุดมายาวนาน คุณพ่อคุณแม่หลายคนพาลูกเข้าเรียนแล้ว ก็ต้องระวังกับโรคอีกหลายโรคที่อาจจะติดมาจากเพื่อนที่โรงเรียนด้วย โรคบางโรคนั้น สามารถป้องกันได้หากเราใส่ใจและดูแลลูกของเราให้ดี โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด ที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยให้รอดพ้นจากโรคติดต่อจากเพื่อนที่โรงเรียนได้ ลองมาดูกันว่า โรคยอดฮิต ที่มักติดมาจากโรงเรียนนั้น มีโรคอะไรบ้าง และเราจะสามารถป้องกันโรคนี้ได้อย่างไร ?
ลูกป่วยเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร?
ในช่วงชีวิตของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องมีสักครั้งที่มีประสบการณ์ลูกน้อยป่วยเข้าโรงพยาบาล บางครั้งลูกป่วยร้องไห้งอแง รวมไปถึงเปลี่ยนสถานที่ใหม่ไม่คุ้นเคย ทำให้พ่อกับแม่เกิดความเครียดได้ แต่จะเตรียมตัวอย่างไรให้ดีที่สุดสำหรับการเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก เพื่อให้รับมือได้ ไม่เครียดและเหนื่อยมากจนเกินไป